เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลพัฒนาไปเรื่อย ๆ
จากเมื่อก่อนที่เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่มีที่เก็บข้อมูล (สมัยจอเขียวกับจอขาว) ใช้แค่
Floppy Disk หรือแผ่น Drive A ตามภาษาชาวบ้าน ขนาด 5.25 นิ้ว (หลัง ๆ
บางครั้งเอามาส่องดูสุริยุปราคาได้ด้วย) ซึ่งมีความจุแค่ 360 KB กับ 720 KB
เท่านั้น จากนั้นเราก็มีที่เก็บข้อมุลในตัวเครื่องให้ใช้กันนั่นคือ Harddisk
มาให้ให้เก็บข้อมูลเยอะ ๆ กัน พร้อมกับก็มี Floppy Disk ขนาด 3.5 นิ้ว มีความจุ
1.44 MB ซึ่ง Floppy Disk ก็กลายเป็นตำนานไปแล้ว (ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน)
หลังจากนั้น Harddisk ก็เพิ่มขนาดความจุมาเรื่อย ๆ
จากระดับ MB เป็น CB แล้วก็มี Harddisk ขนาดพกพา (แต่พกพาลำบากเพราะมันใหญ่และหนัก)
หรือ External Harddisk มาให้ได้ใช้กัน
แต่ราคายังแพงอยู่จึงยังไม่ค่อยนิยมใช้กันแพร่หลาย
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ใช้เฉพาะในหน่วยงานอย่าง Zip Drive และ MO Drive
ให้ได้เลือกใช้
(ที่ใช้แค่ในหน่วยงานเพราะทั้งแผ่นและไดร์ฟแพงและหาซื้อยากไม่เหมาะกับชาวบ้านทั้วไป)
เมื่อถึงยุค Multimedia
การดูหนังฟังเพลงสามารถเล่นได้กับคอมพิวเตอร์ เมื่อคอมพิวเตอร์เสียบลำโพงได้
ก็มีการนำแผ่น CD มาเล่นกับคอมพิวเตอร์ได้ ด้วย CD Drive
นอกจากจะบันทึกข้อมูลแบบหนังและเพลงแล้ว แผ่่น CD
ยังมาถูกนำมาใช้ในการเก็บไฟล์ติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ แทนที่จะเก็บใส่ Floppy Disk
หลาย ๆ แผ่น (โปรแกรมหนึ่งใช้ Floppy Disk เป็นกล่องเลย) ก็เก็บมาไว้ใน CD
แผ่นเดียว เห็บได้หลายโปรแกรมซะด้วยนะ เพราะมีความจุ 800 MB
แล้วต่อมานอกจากอ่านแล้วก้มี CD-RW Drive มาให้ใช้เขียนข้อมูลลง CD ได้ด้วย
ซึ่งแผ่น CD จะมีอยู่ 2 แบบ คือ CD-R เขียนข้อมูลได้อย่างเีดียว และ CD-RW
เขียนและลบข้อมูลได้ด้วย แผ่น CD มีแบบที่เป็น Mini CD และ Card CD
ซึ่งขนาดเล็กกว่า CD ความจุก็เลยน้อยกว่าด้วย
แต่ความต้องการเก็บข้อมูลก็ไม่พอ จึงมีการนำ DVD
ซึ่งมีความจุมากกว่าแผ่น CD หลายเท่ามาใช้งาน DVD ปัจจุบันมี 4 แบบ
เรียกต่างกันตามความจุ คือ DVD 5 (4.7 GB), DVD 9 (8.5 GB), DVD 10 (9.4 GB) และ
DVD 18 (18 GB) แต่ก็ยังไม่พอกับความต้องการครับ (ไม่พอซะที) มีการนำแผ่น Blue Ray
และ HD DVD มาใช้อีก
ซึ่งตอนนี้ยังใช้เป้นแค่แผ่นดูหนังที่ให้คุณภาพของภาพและเสียงดีกว่า DVD
แต่ต้องเล่นกับเครื่องเล่นแบบเฉพาะ เครื่องเล่น DVD ธรรมดา เล่นไม่ได้
แล้วก็มาถึงยุค Flash Drive ซึ่งเรียกว่า Thumb Drive
หรือ USB Drive ก็คงไม่ผิด ซึ่งตอนแรกก็ราคายังแพงอยู่จึงใช้กันแค่เหล่าคนมีเงิน
แต่ไม่นานเมื่อมีการใช้กันแพร่หลายขึ้น มีหลายยี่ห้อหลายความจุขึ้นราคาก็ถูกลง
ชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา ก็แทบจะมีกันคนละอันยังกับมือถือเลยทีเดียว
เพราะเก็บข้อมูลได้ง่าย พกพาได้สะดวก ลืมไว้ทำหายก็ง่ายด้วย ปัจจุบันมีความจุ 1 GB,
2 GB, 4 GB และ 16 GB แล้วยิ่งมีการพัฒนาให้ดูหนังฟังเพลงที่เรียกว่า MP3, MP4, MP5
ได้ด้วย แต่ราคาก็สูงขึ้นนะ (เน้นจริง ๆ เรื่องราคานี่)
มาถึงยุค Hispeed Internet
การดาวน์โหลดจ้อมูล,โปรแกรม,รูปภาพ,เอกสาร,หนังและเพลง ทำได้ง่ายขึ้น ทำให้
Harrdisk ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะมีความจุ หลายร้อย GB ถึง TB ก็ไม่พอเก็บ
External Harddisk จึงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เพราะราคาก็ถูกลงตาม Internal
Harddisk ด้วย ข้อมูลมากมายจึงถูกนำมาเก็บไว้ใน External Harddisk ซึ่งก็มีอยู่ 2
แบบ คือ 2.5 กับ 3.5 ตามขนาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น